ราคาทองคำยังคงร้อนแรง! ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและนโยบายการค้าสหรัฐฯ นักลงทุนต่างจับตาแนวโน้มราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงนี้ บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ พร้อมคำแนะนำสำหรับนักลงทุนที่ต้องการคว้าโอกาสในตลาดทองคำปี 2568
สถานการณ์ราคาทองคำล่าสุด
ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ราคาทองคำ Spot ในตลาดโลกปิดที่ 3,413.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน ขณะที่ราคาทองคำในประเทศไทยปรับตัวขึ้นตาม โดยทองคำแท่งอยู่ที่ 51,250 บาทต่อบาททองคำ และทองรูปพรรณ 52,050 บาทต่อบาททองคำ (ข้อมูล ณ วันที่ 26 กรกฎาคม 2568)
ปัจจัยที่ผลักดันราคาทองคำ
- นโยบายการค้าสหรัฐฯ
ความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะการเก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) และเม็กซิโก ส่งผลให้ทองคำเป็นที่ต้องการในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย - ค่าเงินดอลลาร์และพันธบัตร
การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐและการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ทองคำน่าสนใจยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่มีต้นทุนดอกเบี้ย - ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fed
ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ออกมาในเชิงบวกจุดประกายความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะลดต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำ - ความผันผวนในตลาด
ดัชนีความผันผวนของทองคำ (Gold Volatility Index: GVZ) ใกล้ breakout จากรูปแบบ falling wedge ซึ่งอาจนำไปสู่การพุ่งขึ้นของราคาทองคำในอนาคต
แนวโน้มราคาทองคำ: ระยะสั้นและระยะยาว
ระยะสั้น (1-2 สัปดาห์)
ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อ โดยได้แรงหนุนจากความตึงเครียดทางการค้าและการอ่อนค่าของดอลลาร์ เป้าหมายราคาทองคำ Spot อาจแตะระดับ 3,500-3,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินบาทอาจจำกัดการปรับตัวของราคาทองคำในประเทศ
ระยะกลาง (1-3 เดือน)
หากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และคู่ค้าสำคัญ เช่น EU และจีน ยังคงสร้างความไม่แน่นอน ราคาทองคำอาจพุ่งถึง 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (เพิ่มขึ้น 16% จากระดับปัจจุบัน) ตามการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ชี้ว่าราคากำลังอยู่ในช่วง breakout จากรูปแบบสามเหลี่ยม
ระยะยาว
แนวโน้มขาขึ้นของทองคำยังคงแข็งแกร่ง ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองโลก รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ทำให้ทองคำเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในระยะยาว
วิเคราะห์ทางเทคนิค
จากการวิเคราะห์กราฟราคาทองคำ:
- ราคาทองคำ Spot ยังคงยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA10) และอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นแบบพาราโบลิกที่ต่อเนื่องมา 15 เดือน
- ปัจจุบันอยู่ในช่วง consolidation รอบที่ 4 ซึ่งมักตามด้วยการพุ่งขึ้นอย่างน้อย 19%
- การ breakout จากรูปแบบสามเหลี่ยม 3.5 เดือน ชี้เป้าหมายราคาที่ 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน
- ลงทุนระยะสั้น
- ติดตามข่าวสารการเจรจาการค้าและข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและการตัดสินใจของ Fed
- ซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงใกล้แนวรับ และขายเมื่อเข้าใกล้แนวต้าน
- ลงทุนระยะยาว
- สะสมทองคำแท่ง 99.99% ในช่วงที่ราคาย่อตัวลงเพื่อลดต้นทุนค่าบล็อก
- พิจารณากองทุนทองคำเพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ
- บริหารความเสี่ยง
- ระวังความผันผวนจากค่าเงินบาทและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
- คำนวณค่ากำเหน็จเมื่อลงทุนในทองรูปพรรณเพื่อประเมินผลกำไร
สรุป: ทำไมต้องลงทุนในทองคำตอนนี้?
ด้วยความไม่แน่นอนในนโยบายการค้า การอ่อนค่าของดอลลาร์ และความหวังในการลดดอกเบี้ย ราคาทองคำในปี 2568 มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง นักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงหรือเก็งกำไรควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกำหนดการเจรจาการค้าในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของราคาทองคำ
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูล ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 นักลงทุนควรติดตามข้อมูลเรียลไทม์จากสมาคมค้าทองคำ หรือแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ เช่น InterGOLD และ Finnomena เพื่อประกอบการตัดสินใจ
